วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

ข้อมูลหมู่บ้านแม่พริก ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

ประวัติความเป็นมา

ตำบลแม่พริก มีแม่น้ำแม่พริกไหลผ่าน สมัยแรกที่มีการตั้งถิ่นฐานเป็นพวกที่อพยพมาตั้งถิ่นฐาน คือชาวไทลื้อโดยอพยพมาจากดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
 จากนั้นขุนไพร พริกเขตุ ซึ่งเป็นพ่อขุนในสมัยนั้น ได้ก่อตั้งหมู่บ้านขึ้น โดยได้ใช้ชื่อว่า “บ้านแม่พริก โดยมาตังหมู่บ้านที่ทุ่งมะแตก และบ้านสันจำปา ต่อมาจึงตั้งแขวงที่บ้านแม่พริก หมู่ที่ หลังจากตั้งเป็นอำเภอแม่พริกแล้ว ได้ย้ายอำเภอไปตั้งที่บ้านแม่สรวย เพราะขาดแคลนน้ำ ตำบลแม่พริกได้ยุบรวมกับตำบลแม่สรวย เมื่อปี พ.ศ.2486 และได้แยกออกเป็นตำบลแม่พริกอีกในปี พ.ศ.2488 จนถึงปัจจุบัน

พื้นที่
 พื้นที่ทั้งหมด 23,772.5 0 ไร่ หรือ 38.036 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่พักอาศัย 2,240.15 ไร่ พื้นที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐ 100 ไร่ สวนสาธารณะ / นันทนาการ 69 ไร่ พื้นที่เกษตรกรรม 10,000 ไร่ พื้นที่ตั้งสถานศึกษา 50 ไร่ พื้นที่ป่าไม้ 16,313.40 ไร่

สภาพภูมิประเทศ
 สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่พริกแบ่งเป็นลักษณะตามสภาพความลาดชันได้ 3 ลักษณะ คือ 1. ที่ลาดชัน เป็นพื้นที่เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ 800 เมตร ขึ้นไป ได้แก่
1.บริเวณหมู่ 4, 5, 6 เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบล สภาพพื้นที่เป็นป่าต้นน้ำลำธารน้ำแม่พริกห้วยแห้ง และห้วยลอ
2. ที่ลาดเชิงเขา เป็นพื้นที่เหนือระดับน้ำทะเล 500 - 550 เมตร อยู่ทางตอนกลางของพื้นที่ค่อนไปทางทิศตะวันออก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านบ้านปางอ้อยบ้านโฮ่งและบ้านปางซาง
 3. ที่ราบริมแม่น้ำ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 400 - 500 เมตร ทางทิศตะวันตกของตำบล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มน้ำลาว และที่ราบปากลำน้ำแม่พริกที่ไหลลงสู่น้ำลาว บริเวณบ้านแม่พริกบ้านหัวทุ่งบ้านสันจำปาบ้านชุมชนสันจำปาบ้านหัวรินบ้านทุ่งฟ้าผ่า และบ้านป่าซางพัฒนา

ประชากร
 ประชากร ตำบลแม่พริกเป็นตำบลเดียวในอำเภอแม่สรวย ที่ไม่มีประชากรแฝง หรือชาวไทยภูเขาอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยที่อพยพมาจากอำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย และบางส่วนมาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงเป็นการตั้งถิ่นฐานระบบเครือญาติ ประชากรตำบลแม่พริกแยกตามทะเบียนราษฎร์ จานวน 1,938 ครัวเรือน รวม 5,947 คน แยกเป็นชาย 3,0 24 คน หญิง 2,9 23 คน

เขตพื้นที่
ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลแม่สรวย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
ทิศใต้ ติดกับ ตำบลเจดีย์หลวง และตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
ทิศตะวันออก ติดกับ ตำบลสันกลาง และ ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลป่าแดด และ ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

อาชีพ
ส่วนใหญ่ทำการเกษตรกรรม ทำไร่ทำสวน

สถานภาพทางสังคม
สถานภาพทางสังคม ตำบลแม่พริกเป็นตำบลที่ไม่มีประชากรแฝงอาศัยอยู่ มีสถานภาพทางสังคมส่วนใหญ่เป็นระบบเครือญาติ มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งมีกิจกรรมร่วมกันทางด้านการดำเนินชีวิตการศาสนา และวัฒนธรรมที่เหมือนกัน

ด้านการศึกษา
ตำบลแม่พริกมีศักยภาพทางการศึกษา ดังนี้
การศึกษาในระบบ มีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ จำนวน 5 โรงเรียน
การศึกษานอกระบบ การศึกษานอกโรงเรียน โดยศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอแม่สรวย มีผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 138 คน แยกเป็นระดับประถมศึกษา 11 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 58 คน และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 69 คน

ด้านศาสนา
ตำบลแม่พริกมีการดำเนินกิจกรรมทางด้านศาสนาควบคู่ไปกับกิจกรรมด้านประเพณีและวัฒนธรรมพื้นบ้าน ราษฎรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประเพณีที่สำคัญ คือ การแห่เทียนเข้าพรรษาลอยกระทงสงกรานต์ปอยหลวงการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ( เลี้ยงผีเจ้าบ้าน), การทำบุญเดือนสิบการตักบาตรเทโวการเลี้ยงผีขุนน้ำ และงานสลากภัตต์

ด้านสาธารณสุข
 ปัจจุบันตำบลแม่พริก ได้รับบริการด้านสาธารณสุขมูลฐานครบทุกหมู่บ้าน จากการที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบล ทำให้ราษฎรได้รับบริการด้านการรักษาพยาบาลโดยตรงจากโรงพยาบาลแม่สรวย
จำนวนบุคลากรทางด้านสาธารณสุข 
นอกจากนี้ตำบลแม่พริกยังมีกิจกรรมที่ดำเนินการเป็นประจำคือ การรณรงค์การป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก การทำหมันสุนัขและแมว การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า การควบคุมโรคระบาดที่อาจเกิดจากสัตว์ปีกและสัตว์มีกีบทุกชนิด
สรุปผลระดับการพัฒนาของหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลแม่พริกจากข้อมูล กชช. 2 ปี 2548
หมู่ที่ 1 บ้านแม่พริก จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ 2 บ้านหัวทุ่ง จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ 3 บ้านสันจำปา จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
หมู่ที่ 4 บ้านปางกลาง จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ บ้านปางต้นผึ้ง จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ 6 บ้านปางอาณาเขต จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งฟ้าผ่า จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
หมู่ที่ 8 บ้านหัวริน จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
หมู่ที่ 9 บ้านปางอ้อย จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
หมู่ที่ 10 บ้านโฮ่ง จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ 11 บ้านปางซาง จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 2
หมู่ที่ 12 บ้านชุมชนสันจำปา จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
หมู่ที่ 13 บ้านป่าซางพัฒนา จัดเป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
ลักษณะสภาพภูมิอากาศ
ตำบลแม่พริกมีลักษณะภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้
 1. ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม -กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย1 8 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม -พฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ย 34 องศาเซลเซียส
 3. ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน -กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ย 28 องศาเซลเซียส

สภาพทางเศรษฐกิจ
 ประชากรตำบลแม่พริกส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อาชีพรับจ้างทั่วไป และประกอบอาชีพอื่น  อาชีพรองราษฎรในพื้นที่จะเป็นอาชีพเสริมหลังจากการประกอบอาชีพหลักแล้ว คือ การปลูกพืชหมุนเวียนที่มีอายุการเก็บเกี่ยวระยะสั้น เช่น การปลูกถั่วเหลืองการปลูกพริกการทำสวนผักการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการปลูกใบยาสูบ การประกอบธุรกิจในชุมชนเป็นการประกอบธุรกิจขนาดเล็ก โดยใช้แรงงานใน ครอบครัวและใช้สถานที่อยู่อาศัยเป็นสถานที่ประกอบการ และมีสถาบันทางการเงินที่สนับสนุนให้ชุมชนนามาประกอบอาชีพส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุน พอสรุปได้ดังนี้
1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2. สหกรณ์การเกษตรแม่สรวย จากัด
3. กลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้าน
4. กองทุนหมุนเวียนภายในหมู่บ้าน ( หมู่บ้านละ 1 ล้าน )
5. กองทุนหมุนเวียนหมู่บ้านละ แสน ขององค์การบริหารส่วนตำบล
6. ธนาคารกรุงเทพ สาขาแม่สรวย
7. ธนาคารออมสิน สาขาเวียงป่าเป้า
8. กองทุน กขคจ .
9. กองทุนที่ส่วนราชการต่าง  ได้ให้การสนับสนุนให้กับกลุ่มต่าง  ในหมู่บ้าน
การบริการขั้นพื้นฐาน

การคมนาคม
-ถนนเสริมคอนกรีต 16 สาย
ถนนคอนกรีตเสริมไม้ไผ่ 56 สาย
-ถนนลาดยางผิวเรียบ-สาย
-ถนนดินลูกรัง104สาย

การโทรคมนาคม
-ที่ทาการไปรษณีย์โทรเลข-แห่ง
-โทรศัพท์สาธารณะ25แห่ง
-สถานีโทรคมนาคม อื่นๆ-แห่ง

การไฟฟ้า
อัตราการมีและการใช้ไฟฟ้าของจำนวนหมู่บ้านและจำนวนประชากรที่ใช้ไฟฟ้า ร้อยละ 93.5%

แหล่งน้ำธรรมชาติ
-ลำธารลำห้วย 56สาย
-หนองน้ำสาธารณะ 19 แห่ง

แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
-ฝาย 39แห่ง
 –บ่อน้ำสาธารณะ 17จุด
-บ่อโยก 12 แห่ง
-ประปาหมู่บ้าน 10แห่ง
-อื่นๆ-แห่ง

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ
-ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ผ่านกำแพงเพชร ตาก ลำปาง พะเยา ถึงทางแยกเข้าสู่ถนนหลวง หมายเลข 118 จนถึงตำบลแม่พริก ระยะทางประมาณ 589 กิโลเมตรหรือ
-ใช้ทางหลวงหมายเลขหนึ่ง พหลโยธินแยกเข้าสายอยุธยาอ่างทอง สิงห์บุรี นครสวรรค์ มาแยกทางหลวงหมายเลข 117 ไปยังพิษณุโลก ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 101 จนถึงอำเภอร้องกวาง แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 103 จนถึงทางหลวงหมายเลข ที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง ผ่านพะเยาจนถึงอำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 735 กิลโลเมตร

สถานที่ท่องเที่ยวประจำตำบลแม่พริก ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย

ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ประวัติความเป็นมาของศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

วันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2512  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช  พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระราชพิธีบวงสรวงสังเวยเป็นราชพลี และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศ ถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องด้วยข้อสันนิษฐานเบี้องต้นที่ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกทัพเคลื่อนพลช้าง ม้าไปเมืองหาง โดยผ่านเวียงป่าเป้าและพักทัพอยู่ ณ พื้นที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

ในปีพุทธศักราช 2523คณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า เสนอโครงการสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อำเภอแม่สรวย ไปยังกรมศิลปากร ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างได้ในปีพุทธศักราช 2526
วันที่ 5  กรกฏาคม พุทธศักราช 2530 คณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้ตั้งผ้าป่าสามัคคีหาทุนสร้างอาคารไม้ หลัง เพื่อใช้เป็นศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชชั่วคราว ณ หมู่ที่ 13 ถนนเชียงราย-เชียงใหม่ ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย


เจ้าพระยาไชยานุภาพ และเจ้าพระยาปราบไตรจักร
วันที่  กันยายน พุทธศักราช 2533 ได้มีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยอดีตแม่ทัพภาคที่ พร้อมเงินทุน 500,000 บาท โดยมีองค์กรเอกชน ส่วนราชการ และพ่อค้าประชาชน ได้ร่วมบริจาคด้วย รายได้ส่วนหนึ่งมาจากการจำหน่ายต้นพันธุ์จำปีพร้อมปลูก ต้นละ 3,000  บาท และเชิญผู้บริจาคร่วมปลูกพร้อมมีป้ายชื่อผู้ปลูกทุกต้นด้วย นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สรวย และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกในขณะนั้น (ปัจจุบันคือ พล.อ.แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา)


วันที่  พฤษภาคม พุทธศักราช 2537 ได้มีพิธีอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจำลอง มาจากเมืองพิษณุโลกมาประดิษฐาน ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดเชียงราย

วันที่ 13 พฤษภาคม พุทธศักราช 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จเป็นองค์ประธาน ประกอบพิธีหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่าพระองค์จริง ณ วัดบวรนิเวศวรวิหาร




วันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2546 ได้ประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมรูปเท่าพระองค์จริงมาประดิษฐาน ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตราบเท่าทุกวันนี้
หอประวัติศาสตร์การเดินทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 69 ไร่ ถนนเชียงใหม่-เชียงราย กม.ที่ 129 เลขที่ 139 หมู่ 13 ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอแม่สรวย ประมาณ กิโลเมตร ณ บริเวณอุทยานอันเป็นที่ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เฉลิมพระเกียรติแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย ด้วยระบบที่ทันสมัย ภาษา ไทย-อังกฤษ ได้จากห้องแสดงภาพอดีตและปัจจุบัน  (Then & Now) และจากจอคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัส (Touch Screen Computer)
แหล่งอ้างอิง
http://banjong4000.blogspot.com/2012/07/blog-post_20.html
https://www.youtube.com/watch?v=9OFzfsmGbr0

สถานที่ท่องเที่ยวของอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

เขื่อนแม่สรวย

เขื่อนแม่สรวย   สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2541 โดยทางสำนักงานชลประทานแม่สรวย ได้มีโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่สรวยขึ้นที่ช่องเขาด้านทิศเหนือของยอดเขาแห่งนี้และตั้งอยู่ที่หมู่ 14 บ้านเด่นภูเวียง ตำบลแม่สรวย อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นอ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่สวยงามโดยมีภูเขาล้อมรอบ กักเก็บน้ำจากลำน้ำแม่สรวย ผันน้ำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตรกรรมและอยู่ในเขตดููแลรับผิดชอบของสำนักงานชลประทานแม่สรวย ภายในอ่างเก็บน้ำแม่สรวยจะมีร้านอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว หรือจะเช่าแพเพื่อชมวิวของอ่างเก็บน้ำ จะใช้เป็นที่สังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็ได้ ในราคา 2,000.- บาท ระยะเวลาในการให้เช่า ชั่วโมง ไป-กลับ โดยแพจะล่องไปจนถึงสะพานข้ามลำน้ำสรวยไปบ้านวาวี  ที่นี่ปลาเยอะและตัวใหญ่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการตกปลา จะกางเต้นท์นอนที่อ่างเก็บน้ำนี้ก็ได้.....


สำหรับการเดินทางมาเที่ยวเขื่อนแม่สรวย จะอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สรวยไปทางเชียงรายประมาณ กิโล กรณีเดินทางมาจากเชียงใหม่ให้เลี้ยวซ้ายตรงทางโค้งบ้านตีนดอย เส้นทางผ่านหมู่บ้านเป็นเขา คดโค้ง ถนนลาดยาง สำหรับเส้นทางสายนี้ใช้เป็นเส้นทางไปดอยวาวี และดอยช้างอีกด้วย นอกจากการมาเที่ยวเขื่อนแม่สรวยแล้วภายในบริเวณเขื่อนแม่สรวยจะเป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์พระบรมธาตุคุ้มเวียงสวยอีกด้วย ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงทุกปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ...





แหล่งอ้างอิง
http://banjong4000.blogspot.com/2012/08/blog-post_16.html
https://www.youtube.com/watch?v=2r6doN_9LD8

อาหารพื้นเมืองตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

น้ำพริกตาแดง


น้ำพริกตาแดง: กลุ่มแม่บ้านแปรรูปอาหารตำบลแม่สรวย
 237/1 บ้านแม่สรวย ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย 57180
ติดต่อ : นางจันทรา ใจบุญ
โทร :  0-5365-6459

เรื่องราวของผลิตภัณฑ์/ภูมิปัญญา

การจัดการ
เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงได้มีการรวมตัวกัน จัดตั้งกลุ่มแม่บ้านในแต่ละหมู่บ้าน จัดหาวิทยากรมาสอนการแปรรูปอาหาร ได้รวมหุ้นเพื่อเป็นทุนในการดำเนินงาน ทำการผลิต เช่น น้ำพริกตาแดง มะขามแก้ว ขิงดอง เป็นต้น การตลาดขายภายในหมู่บ้านและตำบล

สภาพพื้นที่
บ้านแม่สรวย หมู่5 สภาพพื้นที่เป็นที่ราบ อยู่ในตัวอำเภอแม่สรวยตั้งอยู่ระหว่างบ้านจอมแจ้ง หมู่12 และบ้านห้วยม่วง หมู่1

ชุมชน
กลุ่มแม่บ้านผลิตน้ำพริกตาแดงและขิงดอง
กลุ่มแม่บ้านผลิตมะขามแก้ว

การรวมกลุ่ม
สมาชิกจะดำเนินการผลิตที่บ้านประธานกลุ่มฯ ส่วนวัตถุดิบทางกลุ่มจะดำเนินการจัดซื้อ โดยงบประมาณได้มาจากการลงหุ้น การตลาดจะจำหน่ายตามร้านค้าในหมู่บ้าน
อาชีพเสริม


หัตถกรรม
แหล่งอ้างอิง
http://www.thaitambon.com/shop/0213154259-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2

ศิลปะวัฒนธรรมของชาวเชียงราย

ฟ้อนสาวไหม

ฟ้อนสาวไหม เป็นศิลปะการฟ้อนของทางภาคเหนือ เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยพ่อกุย สุภาวสิทธิ์ ได้แนวความคิดจากวิธีการปลูกต้นหม่อน เก็บฝ้ายสาวไหม และทอผ้าของชาวบ้านในเวลานั้น ท่ารำใช้ท่าฟ้อนดาบ และฟ้อนเจิง มาปรับปรุง และประดิษฐ์ท่าฟ้อนขึ้นใหม่ เรียกว่า ฟ้อนสาวไหม ใช้ฆ้อง กลอง และฉาบเป็นเครื่องประกอบจังหวะ ต่อมาพ่อกุย ได้ถ่ายทอดท่าฟ้อนสาวไหมให้แก่บุตรสาว คือนาวบัวเรียว รัตนมณีพรณ์ (สุภาวสิทธิ์) ครุฟ้อนประจำวัดศรีทรายมูล จังหวัดเชียงราย นางพลอยศรี สรรพศรี ครูนาฏศิลป์ โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ช่างฟ้อนเก่าในคุ้มเจ้าแก้วนวรัฐ เห็นการแสดงฟ้อนสาวไหนก็เกิดการสนใจ เมื่อมีโอกาสมาพบกันก็ได้ปรับท่าฟ้อนกับนางบัวเรียว โดยได้แทรกลีลาท่ารำนาฏศิลป์ไทยเข้าไป
       ปี พ.ศ.๒๕๑๔ กรมศิลปากรได้เปิดโรงเรียนนาฏศิลป ส่วนภูมิภาคแห่งแรกขึ้นที่ จังหวัดเชียงราย (ปัจจุบัน คือ วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่) มีนโยบายที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ธำรงรักษาศิลปะพื้นเมือง และเสาะแสวงหา รวบรวม ศิลปะพื้นเมืองที่กำลังจะสูญหายไป ฟ้อนสาวไหมจึงเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งที่วิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่พยายามสืบเสาะหาเพื่อนำมาผดุงรักษาไว้ ในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ก็ได้เชิญนางพลอยศรี สรรพศรี มาถ่ายทอดท่าฟ้อนสาวไหมให้แก่คุณครูนาฏศิลป์ละคร ๓ คน คือ นางสาวฉวีวรรณ สบฤกษ์ (นุชนวล) นsางสาวอัจฉรา สุภาไชยกิจ และนางสามปอยดง เครือนันตา
       ต่อมาวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ เชิญนางคำ กาไวย์ มาสอนการตีกลองสะบัดชัย นายคำเป็นผู้มีความรู้ และความสามารถสืบเสาะหาวิธีฟ้อนสาวไหมได้ทั้งชาย และหญิงดังนั้นทางวิทยาลัยจึงได้ปรับปรุงท่าของนางพลอยศรี และท่าของนายคำเข้าด้วยกัน ให้มีลีลาอ่อนช้อย สวยงาม โดยอยู่ในความควบคุมของนางสาวประนอม ทองสมบุญ อดีตผู้อำนวยการวิทยาลันนาฏศิลปเชียงใหม่ นิยมแสดงมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งใช้ผู้หญิงแสดงล้วน
รูปแบบ และลักษณะการแสดง
       ฟ้อนสาวไหม เป็นการฟ้อนด้วยท่ารำตามทำนองเพลงในจังหวะช้า ความงดงามของการรำฟ้อนสาวไหมจะอยู่ที่กระบวนท่ารำในลักษณะต่าง ๆ ที่มีความหมายถึงกรรมวิธีการทอผ้าไหม รวมทั้งความสวยงามของการใช้อวัยวะทุกส่วนของร่างกายให้มีความกลมกลืนกับท่ารำ อาทิ การตีไหล่ การโย้ตัว และมีการแปรแถวในลักษณะต่าง ๆ

การรำแบ่งเป็นขั้นตอนต่าง ๆ ได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑
รำออกตามทำนองเพลง
ขั้นตอนที่ ๒
รำตามกระบวนท่าฟ้อนจนจบกระบวนท่าแล้วรำเข้า

ดนตรี และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง
       ใช้วงดนตรีพื้นเมืองภาคเหนือ วงสะล้อ ซอ ซึง
       เพลงที่ใช้ประกอบการแสดง ได้แก่ เพลงสาวไหม และเพลงล่องแม่ปิง


เครื่องแต่งกาย
       ผ้าผ้านุ่งซิ่นป้ายยาวกรอมเท้า สวมเสื้อแขนกระบอกปล่อยชายอยู่ด้านนอก ห่มสไบ เครื่องประดับ สร้อยคอ สร้อยตัว ต่างหู ผมเกล้ามวยติดดอกไม้
  
โอกาสที่ใช้แสดง
จัดแสดงครั้งแรกที่สถานีไทยโทรทัศน์ ช่อง ๙ กรุงเทพมหานคร ปีพ.ศ. ๒๕๑๙ และเผยแพร่ให้ประชาชนชม

แหล่งอ้างอิง
https://www.youtube.com/watch?v=_P78Lf73j8I